(วันนี้) 30 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม HYDRANGEA 1 โรงแรม TK Palace Hotel & Convention ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน พบปะและมอบแนวทางการสนับสนุนเครือข่ายและเศรษฐกิจฐานราก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนากลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับประเทศ รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายน 2568
การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้เป้าหมายสำคัญในการ “พัฒนากลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากระดับประเทศ” เพื่อให้การดำเนินงานในระดับพื้นที่มีทิศทางที่ชัดเจน เชื่อมโยง และสนับสนุนซึ่งกันและกันในทุกระดับ
รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมความแข็งแกร่งจากภายใน ควบคู่กับการแสวงโอกาสใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายปรับโครงสร้างหนี้ โครงสร้างราคาพลังงาน ส่งเสริม SME ไทยให้อยู่ในสนามการค้าที่เป็นธรรม ส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อการเกษตรทันสมัยและเทคโนโลยีแปรรูปเพื่อความมันคงทางอาหาร อีกทั้งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมเติมเต็มด้วย Soft Power สร้างอิทธิพลด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรม เพื่อจะนำสู่การเพิ่มมูลค่าในสินค้าและบริการของชุมชนและประเทศชาติต่อไป
กรมการพัฒนาชุมชน ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากรัฐบาล ในการขับเคลื่อนงานพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ โดยมีกลยุทธ์การทำงานภายใต้รหัส 1 3 5 76+1 ดังนี้
🔸 1 เป้าหมาย คือ เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน ประชาชนมีความสุข
🔸 3 กลุ่มงาน คือ ดำเนินการ 3 เรื่อง ได้แก่ การเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยวโดยชุมชน
🔸 5 กระบวนการ คือ กระบวนการทำงานจาก 5 ฟันเฟืองหลัก ได้แก่ การเข้าถึงปัจจัย การผลิต การสร้างองค์ความรู้ การตลาด การสื่อสารสร้างการรับรู้เพื่อความยั่งยืน และการบริหารจัดการ
🔸 76+1 คือ มีการจัดตั้งบริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด 76 จังหวัด และบริษัทประชารัฐรักสามัคคี(ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนงาน ภายใต้แนวคิด “รัฐสนับสนุน เอกชนขับเคลื่อน และประชาชนลงมือทำ” โดยมีกลไกการขับเคลื่อนในระดับจังหวัด คือ ภาครัฐ ได้แก่ คณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐประจำจังหวัด (คสป.) ภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด(วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ทำงานประสานกันในลักษณะคู่ขนาน
นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน กล่าวว่า “การประชุมในวันนี้ไม่ใช่เพียงการนำเสนอข้อมูลหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การออกแบบกลไกที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในระดับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง
โดยการบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน เปรียบเสมือนการกำหมัดที่จะสร้างพลังได้มากขึ้น “นิ้วโป้ง”เปรียบเป็นหน่วยงานภาครัฐ ที่ทรงพลังแต่ขับเคลื่อนได้ช้า “นิ้วชี้” เปรียบเป็นภาคการศึกษาและศาสนา ที่สามารถชี้นำสังคมได้ “นิ้วกลาง” เปรียบเป็นภาคประชาชนที่เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน “นิ้วนาง” เปรียบเป็นภาคเอกชน ที่มีทรัพยากรและองค์ความรู้ในการประกอบธุรกิจ และ “นิ้วก้อย” เปรียบเป็นภาคประชาสังคมและสื่อมวลชน ที่ต้องทำงานเกี่ยวก้อยกันไปให้เกิดความสมบูรณ์ในเชิงบูรณาการรวมพลังกันเป็นกำปั้นสร้างพลังการขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ และในนามของกรมการพัฒนาชุมชน นำโดยท่านสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือการทำงานในระดับพื้นที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมในครั้งนี้จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และสามารถนำไปใช้พัฒนาในพื้นที่ของท่านได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป“
#SECoaching #รุ่นที่2
#วิสาหกิจเพื่อสังคม
#กรมการพัฒนาชุมชน #กระทรวงมหาดไทย